U Info & U Delivery บริการแมสเซ็นเจอร์ พนักงานรับส่งเอกสาร พัสดุ โปรดไว้ใจเรา

ขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างไรให้ปลอดภัย ในช่วงฝนตก....


    

ช่วงนี้ฝนตกกระหน่ำลงมาแทบทุกวันทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างยากลำบาก แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานในสายงานแมสเซ็นเจอร์อย่างเราแม้แต่น้อย ไม่ว่าพายุเข้า หรือฝนจะตกหนักแค่ไหน เราก็พร้อมที่จะออกไปวิ่งส่งเอกสาร พัสดุ ให้ถึงมือลูกค้าทันกำหนดเสมอครับ วันนี้พี่ยูจึงนำเคล็ดลับและเทคนิคดีๆที่ใช้วิ่งกันอยู่ในช่วงฝนตกมาฝากกันครับตามไปชมกันเลย.....

  

1.มองหาอุปกรณ์เซฟตี้ที่ดี

1.1 หมวกกันน็อค ควรเลือกใช้แบบเต็มใบ เลือกชนิดแบบมีหน้ากากใสไว้ใช้สำหรับป้องกันเม็ดฝน เศษดิน

เศษหินกระเด็นใส่ เพราะถ้าหากเป็นหมวกแบบเปิดหน้า อาจจะโดนเม็ดฝนกระเด็นใส่ ทำให้บดบังทัศนวิสัยได้

1.2 ชุดกันฝน ก่อนการเดินทางทุกครั้ง ควรมีติดสำรองไว้ใต้เบาะรถอย่างน้อย 2 ตัว สำหรับผู้ขับขี่และคนซ้อนท้าย

 เพื่อป้องกันการเปียกฝน และเศษโคลนที่พร้อมจะกระเด็นมาใส่เราทุกเมื่อ

1.3ถุงมือเพื่อป้องกันการลื่นในขณะฝนตก  มือเราอาจจะลื่นฝนได้ ทำให้การขับขี่ไม่สะดวก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและช่วยในการควบคุมรถให้ง่ายมากยิ่งขึ้น



2.การขับขี่

2.1 ใช้ความเร็วต่ำ หลีกเลี่ยงการใช้ความเร็วสูงในขณะที่ฝนตก ควรใช้ความเร็วต่ำและคงที่ เพราะในขณะที่ฝนตกนั้นถนนจะลื่นมาก

อาจจะทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ 

2.2 เบรคอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงการเบรคอย่างกระทันหันและการใช้เบรคโดยไม่จำเป็น ไม่ควรเบรคลึก พี่ยูแนะนำให้ค่อยๆเบรค โดยใช้วิธีการเบรคแล้วปล่อย ค่อยๆแตะเบรคหลัง

และถอนเกียร์ให้สัมพันธ์กัน

2.3 ชิดเลนซ้าย หลีกเลี่ยงการขับรถซิกแซ็ก แซงไปแซงมาในขณะฝนตกเพราะถนนลื่นอาจจะทำให้รถเกิดล้มขึ้นมาได้

โดยการขับชิดซ้ายจะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้พอสมควร

2.4 ไม่แซงกันในขณะที่ฝนตก ซึ่งขณะขับรถถ้าคันหน้าหยุด เราก็ควรหยุดตามและเว้นระยะห่างอย่างพอเหมาะโดยห่างจากคันหน้าพอสมควร

ไม่ควรแซงในทันที เพราะขณะฝนตกวิสัยทัศน์ในการมองเห็นนั้นค่อนข้างต่ำ อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

2.5 ระมัดระวังรถเหินน้ำ เวลาขับขี่ด้วยความเร็วสูงในรูปแบบที่เรายังควบคุมรถได้ แล้วอยู่ๆรถเกิดอาการเหินน้ำ

คือในขณะที่ขับผ่านบริเวณที่เป็นแอ่งน้ำ หรือมีน้ำขังแล้วยางรถไม่สามารถรีดน้ำออกจากหน้ายางและผิวถนนได้

ทันทีทำให้เกิดการลื่นไถล ซึ่งทำให้เสียการควบคุมรถนั่นเอง 

2.6 ถ้าหากฝนตกหนักมากๆจนไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในระยะ 10 เมตรให้ทำการหยุดรถเพื่อหลบฝนเสียก่อน โดยอาจจะหลบใต้สะพานลอย หรือใต้ตึกสถานที่ปลอดภัยต่างๆ เป็นต้น ไม่ควรขับฝ่าไปทันที

เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้



2.7 ช่วง 5 นาทีแรกที่ฝนตกใหม่ๆ ให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะถนนจะลื่นมากกว่าปกติ



3.ตรวจสอบความพร้อมของรถยนต์ 



ควรตรวจสอบ ระบบไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่างๆ  ระบบเบรค สภาพยาง ดอกยาง แรงดันลมยางลมยางที่อ่อนเกินไปและดอกยางที่มีน้อยเกินไปจะทำให้ประสิทธิภาพในการรีดน้ำลดลงจะทำให้เกิดการลื่นไถลได้ง่ายนั่นเองครับ


ย้อนกลับ